ขี่มอไซค์รับลมหนาว-นั่งจับหมอกบนเขาค้อ
ลมหนาวเริ่มคลืบคลานเข้ามากันแล้วสำหรับปีนี้.. หลายๆท่านที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวโดยรถมอเตอร์ไซค์ ก็คงเริ่มมีแผนการการเดินทางขี่รถเที่ยวประจำปีกันแล้ว แต่ก็คงมีบางท่าน บางกลุ่มก็ได้ออกทริปกันไปแล้วบ้างก็มี ทริปนี้ผมเลยอยากนำเสนอเขาค้อ ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ชาวสองล้อนิยมไปกัน หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวที่มีรูปแบบการท่องเที่ยวของตัวเองก็ชอบที่จะมาเที่ยวที่เขาค้อกัน

จากบ้านใช้เส้นทางเลียบมอเตอร์เวย์บางนา-บางปะอิน ถนนชำรุด

มาโผล่ทางขึ้นเขาค้อแล้วครับ ฝนโปรยปราย

พักหลบฝนที่จุดชมวิวตลาดพืชผลการเกษตร

ถนนลื่นพอสมควร
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าเขาค้อเป็นเมืองเล็กๆในเขาอีกเมืองหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางมาเที่ยว-มาพักผ่อนกันเป็นจำนวนมากในแต่ละปี เพราะอากาศบนเขาค้อนั้นจะมีอุณหภูมิที่เย็นสบายตลอดทั้งปีแม้ในฤดูร้อน และอากาศค่อนข้างจะเย็นจัดในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิเฉลี่ยบนเขาค้อตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 18 - 25 องศาเซลเซียส ที่เรียกชื่อที่นี่ว่าเขาค้อก็เพราะว่า ป่าบริเวณนี้มีต้นค้อขึ้นอยู่มาก ซึ่งโดยปกติต้นค้อจะขึ้นในพื้นที่ที่มีภูมิอากาศหนาวเย็น

ไหนๆก็พักหลบฝน เลยฝากท้องไว้กับหมูปิ้งเจ้านี้ครับ

ถึงเขาค้อก็เย็นพอดี หมอกเริ่มลง
และนอกจากจะมีอากาศที่เย็นสบายแล้วที่เขาค้อยังมีทัศนีย์ภาพที่สวยงาม มีที่พักที่หลากหลาย และมีหลายๆจุดที่สามารถชมทะเลหมอกที่สวยงามในยามเช้าๆ แม้แต่ในที่พักบางที่ คุณสามารถชมทะเลหมอกได้จากในห้องนอนกันเลยทีเดียว บางครั้งในช่วงกลางคืน หมอกก็ยังจะสามารถเข้ามาเยือนคุณถึงในห้องนอนได้เหมือนอย่างที่ผมได้ไปสัมผัสมา

ขี่ตระเวนหาที่พักกัน มองจากมุมสูงเห็นที่พักมากมาย

หาที่พักยังไม่ได้ หยุดชมวิวกันบนเขาที่ถนนสาย2258
บรรยากาศช่วงในวันที่ผมเดินทางจากกรุงเทพฯ เป็นวันที่แดดค่อนข้างแรง ขับขี่มอไซค์โดยใช้เส้นทางเลียบมอร์เตอร์เวย์สายบางนา-บางปะอิน ไปโผล่แถวๆเส้นสระบุรี-วังน้อย และออกทางเลี่ยงเมืองสระบุรีไป ผ่านอ.พนัสนิคม อ.ชัยบาดาล อ.วิเชียรบุร อ.หนองใผ่ ผ่านตัวเมืองเพชรบูณ์ วิ่งไปตามถนนสามัคคีชัย จนเจอป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาค้อ(แต่หากไม่อยากขึ้นเขาหรือใช้เส้นทางเขาให้ตรงไปก็ได้นะครับ)

ยักษ์ดำBMW1100RS มีบาดแผลจากการเข้าโค้งในช่วงที่ฝนตก

ได้ที่พักแล้วครับ วิวดีมากๆ ที่
เส้นทางบนเขาค้อไม่ได้กว้างมากนัก สภาพถนนจัดว่าดี มีหลุมหรือผิวถนนชำรุดน้อยมากครับ ทำให้การขับขี่ของเราในวันนั้นสนุกพอสมควร แต่ระหว่างทางก่อนถึงจุดชมวิวตลาดการเกษตรมีฝนตกลงมาเบาๆ ทำให้ถนนลื่นเอาการอยู่เหมือนกัน เข้าโค้งต้องชะลอความเร็วลงเยอะเลยครับ เพราะโค้งบางโค้งไม่รับการเข้าโค้งหนักๆ บางครั้งที่ผมมาเร็วและผ่อนคันเร่งช้าไปหน่อย พอเข้าโค้งก็มีอาการท้ายปัดอยู่บ้างเหมือนกัน ผมมารู้ทีหลัง(วันรุ่งขึ้น)ว่าน้องชายที่ตามมาห่างๆ พาเจ้ายักษ์ดำBMW1100RSลงไปนอนเล่นกับโค้งหลายครั้งเลย ทั้งซ้ายและขวา

ไหว้พระประจำที่พักเราหน่อย จะได้นอนหลับฝันดี

ที่พักเราส่วนตั๊วส่วนตัว และวิวดีมากๆ
หากใครมีโอกาสได้ไปขี่มอไซค์บนเขาค้อแล้วเจอฝนระหว่างทาง ก็ขอให้ระมัดระวังเพิ่มขึ้นนะครับ แต่ผมเชื่อว่าชาวสองล้อส่วนมากคงมีประสบการณ์ในการขับขี่มามากพอที่จะสามารถพาตัวเองไปถึงจุดหมายปลายทางได้แบบสบายๆทุกท่าน

เขาที่อยู่ด้านหน้าคือ ภูย่า

ที่พักเราในห้องนอนได้เกือบ10คน แต่คืนนี้นอนกันแค่2คน
จากกรุงเทพฯ ในช่วงเส้นทางทางหลวงหมายเลข21 ผมใช้ความเร็วได้มากพอสมควร บางครั้งใช้ได้ถึง160กม./ชม. ไม่กล้าเร็วกว่านี้เพราะด้วยเจ้าอาชาคู่กาย HD Sportster48 เดิมๆเป็นรถที่มีความนุ่มนวลน้อยมาก ทำให้ต้องคอยระวังถนนที่มีผิวถนนชำรุด หากเมื่อลงหลุมครั้งใดแรงสะท้านจากตูดมันกระเทือนไปถึงหัวใจกันเลยทีเดียว ยิ่งเจอคอสะพานที่ไม่เสมอกับถนนแล้ว ความเร็วที่120นี่ก็น่ากลัวแล้วครับสำหรับรถรุ่นนี้

ดูซิ..กว้างขวางแค่ไหน ด้านข้างมีอีกห้องนะ

HD Sportster48 กะ BMW1100RS สงบกันสักพัก
ออกจากบ้านเกือบๆ10โมง แวะโน่นแวะนี่ตามรายทาง กว่าจะมาถึงบนเขาค้อก็ปาไป4โมงกว่าแล้วครับ 4โมงที่ด้านบนเขาค้อนี่บรรยากาศก็เริ่มเหมือน6โมงเย็นแล้วครับ ด้วยความที่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยก็ต้องตระเวณหาที่พักกันอีก สุดท้ายก็ได้ที่พักถนนสาย2258 ผ่านทางเข้าพระตำหนักเขาค้อไปประมาณ2-3กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่ๆค่อนข้างเงียบกว่าทางสาย2196ที่มีที่เป็นแหล่งชุมชนที่มีพักมากมาย

เมื่อเจ้าของจะไป อาชาคู่ใจย่อมไม่ปฎิเสธ เลอะ..ฮ่าๆๆ

ไร่ข้างๆ เค้ามากันเป็นครอบครัวใหญ่

ดาวบนดิน แถวๆบ้านเขาย่า

เฆกหมอกลอยต่ำ เคลื่อนผ่านไปมาที่ด้านล่างบ้้านเขาย่า

แม้แต่ระเบียงห้องพักเราก็ถูกปกคลุมด้วยหมอก

สองพี่น้องนั่งสนทนากลางสายหมอก หนาวนะนั่น..อิๆ
คืนแรกนี้โชคดีที่เจอเจ้าของที่พักที่ใจดีครับ บ้านหลังใหญ่ที่สุด วิวดีที่สุด ปกติพักคืนละ5000บาท เจ้าของเค้าลดให้ผมเหลือแค่ 1200บาทเองครับ พร้อมกับการบริการที่เป็นกันเอง ตอนเช้าๆผมกับน้องชายยังขอใช้น้ำล้างรถกันอีกพี่เค้าก็ยินดีให้เราใช้น้ำ อย่างเต็มที่ครับ ผมต้องขอขอบคุณอีกครั้งผ่านทางเรื่องเล่าผ่านเว็บของผมนี้ด้วยนะครับ อ่อ..ลืมบอกไปว่าที่พักของพี่เค้าชื่อ "บ้านไร่ฝอยทอง" ใครต้องการความสงบที่ส่วนตั๊วส่วนตัว ก็ไปใช้บริการที่นี่ได้เลยนะครับ บ้านหลังที่ผมนอนกันหากไปกันสัก10คันก็รองรับได้ครับ

4ท่มกว่าๆ หมอกลงหนามาก

ระยะ10เมตร มองเห็นลางๆ

ฟ้าวันใหม่ ที่เขาค้อ

จะ9โมงแล้ว หมอกยังเยอะอยู่เลย
บรรยากาศช่วงค่ำคืนอากาศหนาวเย็นครับ แต่ด้วยความที่เป็นคนเหนืออยู่แล้วก็เลยถือว่าสบายๆ ที่เขาค้อมีหมอกลงตั้งแต่หัวค่ำเลย ช่วง1ทุ่มผมได้พากันลงมาทานช้าวทีบริเวณสี่แยกรืนฤดี ระหว่างทางมืดมาก ขางช่วงหมอกลงหนามาก ไฟรถสาดส่องไปมองเห็นได้เพียง2-3เมตรเท่านั้น แต่ช่วงขากลับประมาณ2ทุ่มกว่าๆ หมอกเริ่มลอยสูงทำให้ขี่กลับที่พักกันได้สบายๆ

แสงแดดยามสาย พยายามสอดส่องผ่านหมอกลงมา

ทะเลหมอกจางๆ ยามสาย

ถนนด้านหน้าที่พัก บ้านไร่ฝอยทอง

ของสะสมของเจ้าของที่พัก คุ้นๆ..เค้าว่าใช้ขับจริงๆได้
บนระเบียงบ้านพักสามารถมองเห็นวิวในช่วงคำคืนได้อย่างสวยงาม หมอกล่องลอยผ่านไปมา บางครั้งหมอกก็เข้ามาทักทายถึงที่ระเบียงกันเลย อากาศดีมากๆเลยครับ ทำให้แทบไม่อยากเข้านอนกันเลยทีเดียว แต่ยังไงๆก็ต้องนอนกันล่ะครับ ไม่งั้นพรุ่งนี้คงไม่มีแรงควบอาชาคู่กายไปท่องเที่ยวที่อื่นๆอีก เพราะมีแพลนไว้ว่าพรุ่งนี้จะใช้เส้นทางที่ออกไปทางแคมป์สนกัน เพราะถนนหมายเลข2196 มีสถานที่่ท่องเที่ยวให้เราแวะเที่ยวชมกันอีกหลายที่

ได้จอดหน้าห้องพักที่ส่วนตัวมากๆ คืนนี้เลยได้นอนเต็มๆ

มื้อสายได้ก๋วยเตี๋ยวข้างทางรองท้องครับ
เอาไว้เรื่องเล่าตอนหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังว่ามีอะไรให้เราชาวสองล้อแวะเที่ยว แวะถ่ายรูปกันบ้างนะครับ ผมเก็บรูปมาเยอะเหมือนกัน แต่ทุกรูปไม่มีรูปไหนสวยเลย(ฮ่าๆๆ) ไม่ใช่กล้องไม่ดีนะครับ เพียงแต่งช่างภาพใจร้อนครับ ไม่มีการวัดแสง ไม่มีการปรับโหมดกล้อง ไม่มีการหามุมอะไรเลยครับ ควักกล้องมาได้ก็กดๆอย่างเดียวเลย ไว้เมื่อไหร่ผมเป็นคนใจเย็นขึ้น ก็จะพยายามถ่ายภาพสวยๆมาลงให้ดูบ้างนะครับ..

หน้าตาของมื้อเช้าที่เขาค้อของผม ^^

ก่อนจาก.. ขอถ่ายกับป้ายไว้เป็นที่ระลึก

ออกตัวมุ่งสู่ตัวอ.เขาค้อ

ตัดสินใจอยู่ว่าจะแวะรึไม่แวะดี
ข้อมูลการเดินทางแบบมาตรฐานทั่วๆไปนะครับ - จากเพชรบูรณ์ไปเขาค้อใช้ทางหลวงหมายเลข 21 (เพชรบูรณ์-หล่มสัก) ถึงสามแยกนางั่ว ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2258 อีก 30 กิโลเมตร อีกเส้นทางหนึ่งคือ ไปตามทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-หล่มสัก) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 100 (บ้านแคมป์สน) เลี้ยวซ้ายเข้าเขาค้อตามทางหลวงหมายเลข 2196 อีกประมาณ 33 กิโลเมตร พาหนะที่จะขึ้นเขาค้อ ไม่ควรใช้รถบัสขนาดใหญ่ เพราะมีทางโค้งมาก ถนนค่อนข้างแคบและลาดชัน ควรใช้รถปิคอัพหรือรถตู้สภาพดี
- ส่วนนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถประจำทาง ท่านสามารถเช่ารถสองแถวได้ที่ปากทางขึ้นเขาค้อ บริเวณแคมป์สน ในราคาวันละประมาณ 800 บาท มีรถจอดคอยให้บริการตั้งต่เวลา 08.00-17.00 น นะครับ

ถ้าฝนไม่ตก บนเขาค้อเป็นอีกที่หนึ่งขี่มอไซค์ได้สนุกมาก

จอดชมวิว..เห็นอ่างเก็บน้ำรัตนัยอยู่ไกลๆ

จุดชมวิวบริเวณสวนสน เห็นวิวเขาค้อได้ชัดเจน

กลางตัวอ.เขาค้อ มีรีสอร์ทให้เลือกมากมาย