ม่อนแจ่ม..จิปกาแฟรับลมหนาว ณ ดอยม่อนแจ่ม
ฤดูหนาวในปี52 ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่บนยอดดอยอย่างเงียบๆในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งช่วงนั้นที่แห่งนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก แม้แต่คนเชียงใหม่เอง(ที่ไม่ใช่คนแถบนี้)น้อยคนที่จะรู้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแห่งนี้อยู่ มาหนาวปี54 ได้โอกาสมาเชียงใหม่อีกทั้งทีผมก็ไม่พลาดที่จะต้องกลับไปเที่ยวอีกครั้ง เพราะได้ยินมาหนาหูซะเหลือเกินว่าหากใครไปเชียงใหม่เดี๋ยวนี้ "อะไรๆก็ม่อนแจ่ม..ม่อนแจ่ม" "ใครๆก็พูดถึงแต่ม่อนแจ่ม..ม่อนแจ่ม"

ออกเดินทางด้วยมอไซค์คันโปรด โดยคิดว่าไม่น่าจะหนาว

อากาศสบายๆบนถนนเลียบคลองชลประทาน(คันคลอง)
เป้าหมายการไปม่อนแจ่มรอบนี้ นอกจากอยากไปดูความเปลี่ยนของม่อนแจ่มหลังจากที่ได้รับความนิยมแล้ว ก็คือได้ขี่รถเล่นโต้ลมเย็นๆ+นั่งจิปกาแฟบนยอดดอยที่มองวิวได้ไกลๆ

ใช้ความเร็วได้เยอะหน่อยเพราะถนนช่วงนี้รถยังไม่เยอะ

ตามป้าย อ.แม่ริม ไปเลยครับ
เกือบๆจะ10โมงเช้าออกตัวเดินทางจากบริเวณแยกแม่เหี๊ยะ ถนนเส้นคันคลอง(คลองชลประทาน) ซึ่งช่วงเวลานี้รถจะไม่มากเท่าไหร่ทำให้ขี่ได้สบายๆ ผ่านสี่แยกต้นพยอม ลัดเลาะคันคลองผ่านสี่แยกโรงแรมภูคำตรงไปทางสนามกีฬา700ปี เส้นทางนี้หากดูรามแผนที่แล้วจะเป็นถนนหมายเลข121นะครับ

เข้าสู่ถนนเส้นแม่สาเรียบร้อยแล้ว

ถนนดีครับเข้าโค้งได้สบายๆไม่มีน่ากลัว
บนนถนนสายคันคลอง(121) ผมวิ่งไปจนสุดถนนสายนี้เลยครับ ส่วนสภาพถนนเป็นถนนคอนกรีตไม่มีหลุม มีทางโค้งและแยกไฟเขียวไฟแดงบ้างเล็กน้อย ที่ผมใช้เส้นทางนี้เพราะเป็นเส้นทางเลี่ยงเมืองนิดนึงและวิ่งตรงจากที่พักผมได้เลย มันสะดวกดีครับไม่ต้องซิกแซกหรือติดไฟแดงบ่อยๆ พอหลุดจากสี่แยกภูคำมารถก็ไม่เยอะแล้วครับ

แม้จะถนนดีโค้งสนุก แต่ก็ระวังรถที่จะสวนมาด้วย

ผ่านปางช้างแม่สา โอกาสหน้าค่อยมาเที่ยวละกัน
หากใครจะใช้เส้นทางเดียวกับผม ให้ขี่ผ่านสนามกีฬา700ปี ผ่านทางแยกเข้าห้วยตึงเฒ่าไปประมาณ300-500ม. แล้วเลี้ยวขวาเพื่อจะเข้าสู่ถนนโชตนา ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่จะเข้าสู่ตัวอ.แม่ริม จากนั้นไปตามป้าย อ.แม่ริม ไปเลยครับ

สองข้างทางมีต้นไม้ให้ร่มเงา แต่ตอนนี้เริ่มหนาวละ

โป่งแยงแอ่งดอย เคยมากินมื้อกลางวันที่นี่ อร่อยๆ
ถึงอ.แม่ริม รถอาจจะเยอะในช่วงฤดูท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ถึงกับติดขัดนักหรอกคับ แป๊บๆก็หลุดจากตัวเมืองแม่ริม ก็จะเจอสามแยกมีป้ายบอกทางเลี้ยวซ้ายไป อ.สะเมิง หรือ ป้ายบอกทางไปน้ำตกแม่สา แต่จริงๆแล้วมีป้ายเพียบเลยครับเพราะเลี้ยวเข้าไปก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเยอะเพียบเลยครับ เพราะถนนสายแม่ริม-สะเมิง เป็นถนนแห่งการท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจ.เชียงใหม่มาแต่ช้านานแล้วล่ะ
อ่อ..ลืมบอกไป สภาพถนนโชตนาช่วงเข้าสู่อ.แม่ริม จะมีไหล่ทางที่ชำรุดอยู่บ้าง และรอยต่อระหว่างไหล่ทางกับถนนมีระดับสูงต่ำนะครับ ให้ระวังหน่อยนะสำหรับชาวสองล้อ

จุดนั่งจิปกาแฟ+ชมวิว ที่ดีที่สุดบนยอดดอยม่อนแจ่ม

ทางลงไปยังจุดที่พักกางเต้นท์บนม่อนแจ่มเค้า
เข้าสู่ถนนแม่ริม-สะเมิงแล้ว(หมายเลข1096) ถนนสายนี้เป็น2Wayนะครับ สภาพถนนก็เป็นถนนลาดยางที่แทบจะไม่มีหลุมเลย ทางโค้งก็รับกับการเข้าโค้งได้อย่างดี แต่ก็ควรใช้ความระมัดระวังเพราะจะมีรถสวนมาเกือบตลอดทาง และสำหรับชาวสองล้อก็ระวังกรวดทรายระหว่างทางโค้งด้วยนะครับซึ่งจะมีอยู่บางโค้งเท่านั้นแต่ไม่มาก น่าจะ"เอาอยู่"(คำฮิตจากพี่เสก 555+)
ทางมีขึ้นเขาบ้าง ลงเขาบ้าง ไม่สูงชัน อากาศก็เริ่มเย็นสบายถึงหนาวเย็น(สำหรับคนขี้หนาว) เพราะสองข้างทางเป็นไม้ใหญ่ปกคลุมอยู่ตลอดทาง หากเที่ยวแบบไม่รีบเวลาเหลือๆก็แวะเที่ยวได้ตลอดทางเลยนะ ที่เที่ยวของเอกชนเยอะมาก

อาหารก็มีให้สั่งทานด้วยนะ..ได้เห็นวิว180องศากันเลย

กระท่อมน้อยก็น่านั่งมิใช่น้อย เป็นส่วนตัวอีกต่างหาก
ขี่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวดังๆหลายๆแห่ง เช่น น้ำตกแม่สา ปางช้างแม่สา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ จนกระทั่งผ่านโป่งแยงแอ่งดอย ซึ่งเป็นที่เที่ยวและร้านอาหาร(ร้านนี้ก็ขอแนะนำ5-6ปีก่อนผมคอยมาทาน อาหารอร่อยมากบรรยากาศก็สุดยอด)ที่อยู่ทางซ้ายมือ และขณะลงเขามาก่อนจะถึงบ้านโป่งแยงให้สังเกตุป้ายบอกทางไปม่อนแจ่มด้านขวามือ
จากแยกนี้เข้าไปอีก6กม.ก็จะถึงม่อนแจ่มแล้วล่ะครับ ถนนลาดยางใหม่รถยนต์สวนกันได้พอดี ทางขึ้นเขาก็ไม่ชันเท่าไหร่นัก แต่หลังจากผ่านศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยขึ้นไป ทางจะเริ่มชันขึ้นอีก
กระทั่งเข้าไปในหมูบ้านม้งหนองหอย ถนนจะชันและแคบลง มีหลุมมีบ่อ ณ วันที่ผมขึ้นไปม่อนแจ่มทางคอนกรีตในหมู่บ้านม้งหนองหอย ช่วงก่อนจะถึงม่อนแจ่ม มีรถตกข้างทางอยู่หลายคัน เพราะตัวถนนถูกเทขึ้นสูงกว่าผิวดินข้างถนน ทำให้เวลารถยนต์สวนกันได้ลำบาก หากใครไม่ค่อยชำนาญทางเขา+ทางแคบๆต้องปล่อยให้คันที่สวนมาผ่านไปก่อนจะปลอยภัยกว่านะครับ

เงาเมฆบนยอดไม้ สวยดี

ลานหญ้าด้านล่างร้านอาหาร แม้จะมีแดดแต่ก็อุ่นสบาย
ถึงจุดหมายบนยอดดอยม่อนแจ่ม ด้านบนยอดดอยนี้มีที่จอดรถยนต์ได้แต่ไม่มากนัก เท่าที่ผมกะคร่าวๆไม่น่าจะเกิน40คัน ส่วนรถมอเตอร์ไซค์ก็หาที่จอดได้ไม่ยากนัก
อากาศบนม่อนแจ่มวันนี้ที่ผมมาไม่หนาวเย็นมากนัก อาจจะด้วยเป็นช่วงเที่ยงวันแล้วละมั้งเลยมีแดดสาดส่องลงมาทำให้ไม่ต้องทนหนาวนัก ท้องฟ้าก็เป็นสีฟ้าสวยงาม ปุยเมฆสีขาวลอยละล่องเหมือนอยู่ไม่ไกล หากมองไกลออกไปก็เห็นสีเขียวของต้นไม้ตามภูเขาลูกต่างๆที่เรียงรายไกลสุดสายตา วันนี้ได้ขึ้นมาชมวิว+สูดอากาศบนดอยม่อนแจ่มแล้วสดชื่นจริงๆ

ได้มุมนั่งละ หลังจากสอดสายตามองหาตั้งนาน

กาแฟม๊อคค่าร้อนๆในแก้วกระดาษ ทำเป็นรูปหัวใจซะด้วย
สิ่งที่เปลี่ยนไปบนดอยม่อนแจ่มในรอบนี้ที่เห็นได้ชัดคือ มีผู้คนมากมายเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก ก็อย่างว่าแหละครับตอนนี้ นาทีนี้ หากใครไปเที่ยวเชียงใหม่มักจะไม่พลาดที่จะต้องไปเที่ยวม่อนแจ่ม จนผมมีคำพูดติดปากที่มักจะพูดกับเพื่อนๆชาวเชียงใหม่ว่า "อะไรๆก็ม่อนแจ่ม..ม่อนแจ่ม"

อีกมุมกล้องที่อยากนำเสนอ

นั่งด้านบนชมวิวได้ไกลสุดตา ในมุม180องศา
ตั้งหน้าตั้งตาบึ่งมอเตอร์ไซค์คันโปรดเพื่อมาจิปกาแฟ+ชมวิวบนม่อนแจ่มทั้งที มาถึงแล้วก็ต้องหาที่นั่งจิปกาแฟให้จงได้แม้จะต้องรอที่ว่างนานแค่ไหน แล้วก็ฟ้าเป็นใจครับ ได้นั่งจิปกาแฟ+ชมวิวอย่างสมใจ อ่อ..แต่ตอนนี้ร้านอาหารบนม่อนแจ่มเค้ามีอาหารหลากหลายให้เลือกทานแล้ว เมื่อครั้งก่อนผมมายังไม่มีเมนูอาหารฝรั่งเลย ตอนนี้มีอาหารพวกสปาเก็ตตี้ และอื่นๆอีกเยอะแยะ มารอบนี้เห็นมีของหวานๆกินเล่นด้วย เลยสั่งวาฟเฟิลช็อคโกแล็ต+ขนมปังราสเบอรี่มาลองชิมดู ด้วยทัศนียภาพและอากาศที่หนาวเย็นบนยอดดอยม่อนแจ่มให้การจิปกาแฟ และทานขนมหวานในวันนี้ของผมได้อรรถรสและความประทับใจแบบสุดๆ ^^

มาแล้วของที่สั่งเพิ่ม..

วาฟเฟิลช็อกโกแล็ต กะ ขนมปังราสเบอรี่
บนดอยม่อนแจ่มก็จะมีที่พักไว้บริการด้วยนะครับ หากใครอยากที่จะนอนค้างคืนสัมผัสอากาศเย็นของดอยม่อนแจ่ม และยังสามารถมองเห็นดาวบนดินได้อย่างสวยงามซะด้วยสิ ที่พักก็จะมีทั้งแบบเป็นกระท่อมที่ทำจากไม้ใผ่ และ แบบเต็นท์ ให้เลือกได้ตามชอบ แต่ที่นี่เค้าไม่อนุญาตให้นำเต้นท์มากางเองนะ หากจะพักบนม่อนแจ่มต้องใช้บริการของเค้าเท่านั้น ส่วนราคาค่าที่พักนั้นผมรู้แต่เพียงราคาพักเต้นท์ คือ เต้นท์เล็กสำหรับ2 คน ราคา 800 บาทต่อคืน และเต้นท์ใหญ่สำหรับ4 คน ราคา 1,200 บาทต่อคืน หรือ จะโทรถามรายละเอียดก่อนก็ได้ครับที่ 081-8063993 และ 053810765 ต่อ 108

อีกรูปก่อนไม่เหลือให้ถ่าย อิๆๆ..

เหมือนแดดจะแรง แต่วันที่ผมไปอุ่นดีครับ

ภูเขาหลายๆลูกถูกปรับเปลี่ยนมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตร

ต่างคนก็มีมุมส่วนตัวของแต่ละคน

ลานจอดรถที่ตอนนี้ไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยวซะแล้ว

ทั้งภูเขาเขียวขจีด้วยพืชผักการเษตร

อีกมุมสนามหญ้าที่น่านั่ง เหมือนนั่งอยู่บนขอบฟ้าเลยอ่ะ

มีร้านเล็กๆขายสินค้าพื้นเมืองของเชียงใหม่และท้องถิ่น

ไร่สตอเบอรี่ ป่านนี้คงเก็บลูกกินได้แล้ว

นี่แหละตัวจริงบนยอดดอยม่อนแจ่ม
หากใครอยากสูดอากาศเย็นๆบนยอดดอย ชมวิวสวยๆสุดตา ผมว่าม่อนแจ่มเป็นคำตอบที่น่าตอบมากๆเลยล่ะในตอนนี้ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่ และถนนหนทางที่สะดวกสบาย ทำให้เราไม่ต้องเหนื่อยต่อการเดินทาง แถมยังมีเวลาแวะโน่นแวะนี่ได้อีกหลายๆที่ ไปเที่ยวกันดูนะครับ..ไปชิลล์ๆที่ม่อนแจ่ม ^_^